คำถามที่พบบ่อย (FAQ): เครื่องทาบบัตรกันน้ำ
คำถามที่พบบ่อย (FAQ): เครื่องทาบบัตรกันน้ำ
1. เครื่องทาบบัตรกันน้ำได้จริงไหม?
จริงครับ แต่ต้องดู “ค่ามาตรฐาน IP” ด้วย
ถ้าเป็นรุ่นทั่วไป (เช่น IP54) อาจกันฝุ่นได้แต่ไม่กันน้ำ
แนะนำเลือกตั้งแต่ IP65 ขึ้นไป สำหรับใช้งานภายนอกอาคาร
เพราะสามารถกันฝนหรือหัวฉีดน้ำได้ ไม่พังง่ายแน่นอน
2. ถ้าติดตั้งเครื่องทาบบัตรกลางแจ้ง จำเป็นต้องใช้รุ่น IP67 ไหม?
ถ้าตำแหน่งติดตั้ง โดนน้ำโดยตรง เช่น หน้าประตูรั้ว ไม่มีชายคาเลย
IP67 จะเหมาะที่สุด เพราะสามารถกันฝุ่น 100% และทนน้ำระดับแช่ได้ชั่วคราว
แต่ถ้ามีหลังคาบังฝนอยู่แล้ว รุ่น IP65 ก็เพียงพอครับ
3. เครื่องทาบบัตรที่กันน้ำได้ ต้องกันแดดด้วยหรือเปล่า?
ไม่เสมอไปครับ!
เครื่องที่ “กันน้ำ” อาจไม่ “กัน UV”
ถ้าต้องติดตั้งกลางแจ้งโดนแดดแรงทุกวัน ควรเลือกรุ่นที่ใช้วัสดุ ทนความร้อนและรังสี UV
หรือเพิ่ม ฝาครอบกันแดด (Sun Shield) ช่วยยืดอายุการใช้งานได้มากขึ้น
4. ถ้าเครื่องกันน้ำแล้ว ยังต้องติดตั้งในกล่องกันฝนอีกไหม?
ถ้ารุ่นที่เลือกเป็น IP65 ขึ้นไป และติดในจุดที่ฝนไม่สาดโดยตรง
ไม่จำเป็นต้องมีกล่องเพิ่มก็ได้ครับ
แต่ถ้าอยู่ในพื้นที่เสี่ยงโดนน้ำแรง เช่น พายุ ฝนสาดแรง หรือมีระบบรดน้ำต้นไม้ใกล้ ๆ
แนะนำให้ติดกล่องกันน้ำเสริมไว้ด้วย เพื่อความชัวร์
5. เครื่องกันน้ำแต่พังเพราะความชื้นในกล่อง ทำยังไงดี?
ความชื้นสะสมในกล่องกันน้ำเป็นเรื่องที่เจอบ่อย
แนะนำให้ใส่ ซองดูดความชื้น (Silica Gel) ไว้ข้างในกล่อง
และตรวจเช็กซีลยางปิดทุก 3–6 เดือน เพื่อป้องกันน้ำซึมเข้าโดยไม่รู้ตัว
6. เครื่องทาบบัตรกันน้ำใช้กับระบบควบคุมประตูเดิมได้ไหม?
ส่วนใหญ่สามารถเชื่อมต่อได้ครับ
โดยเฉพาะรุ่นที่รองรับมาตรฐาน Wiegand / TCP-IP / RS485
แต่ควรให้ช่างหรือทีมติดตั้งตรวจสอบรุ่นให้แน่ใจอีกครั้งก่อนสั่งซื้อ
เพื่อให้ทำงานร่วมกับระบบเดิมได้สมบูรณ์ที่สุด
สรุปง่าย ๆ
ถ้าคุณกำลังจะติดตั้งเครื่องทาบบัตรไว้ภายนอกอาคาร
เลือกรุ่นที่มีค่ามาตรฐาน IP65 ขึ้นไป จะช่วยให้ใช้งานได้ทนทาน
ไม่ต้องกลัวฝน ไม่ต้องกลัวแดด ใช้ได้นาน คุ้มค่ากว่าแน่นอน